วัง หมิงเฉฺวียน
วัง หมิงเฉฺวียน

วัง หมิงเฉฺวียน

วัง หมิงเฉฺวียน (จีน: 汪明荃; พินอิน: Wāng Míngquán; กวางตุ้ง: wong1 ming4 cyun4 ว้อง เหม่งฉวิ่น; อังกฤษ :Liza Wang) เป็นนักแสดงหญิงชาวฮ่องกง เป็นนางเอกยุคแรกของทีวีบี ในกลุ่ม "สามยอดมณีแห่งทีวีบี" ร่วมกับ หวงซู่อี้ และ หลีซือฉี. วัง หมิงเฉฺวียนได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานว่าเป็นศิลปินหญิงที่มีทั้งพรสวรรค์และความสามารถในหลาย ๆ ด้าน เธอเป็นทั้งนักแสดง-นักร้อง และพิธีกรหญิง ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วทั้งเอเชีย โดยเฉพาะในช่วงยุค 70s-80s เธอจะได้รับความนิยมและโด่งดังในฮ่องกงมากเป็นพิเศษ อีกทั้งเธอเองก็อยู่ในวงการและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี จนได้รับการขนานนามว่า พี่สาวใหญ่แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง (The Big Sister)[1] เรียกได้ว่าเธอเป็นปูชนียบุคคลของวงการละครโทรทัศน์ฮ่องกงเลยก็ว่าได้ เพราะเธอเป็นที่เคารพนับถือของบรรดานักแสดงด้วยกันทั้งรุ่นพี่,รุ่นน้อง และรุ่นเดียวกันทั้งชายและหญิง ซึ่งต่างก็ยอมรับในความเก่งของเธอ ในอดีตเธอมีผลงานละครดังที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชม มากมายหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งผลงานละครที่เธอรับบทแสดงนำหรือร่วมแสดง ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมอย่างสูง จนขึ้นมาเป็น 1 ใน 4 ดรุณีหยกรุ่นแรกและรุ่นสองแห่งยุคทศวรรษที่ 70 ของทางช่องสถานีโทรทัศน์ทีวีบี อีกทั้งบทเพลงประกอบละครที่แสนไพเราะหวานซึ้งตรึงใจมากมายที่เธอได้ขับขานลงในละครที่เธอเล่น ต่างก็ได้รับความนิยมอย่างมากจนทุกวันนี้บทเพลงเหล่านั้นได้กลายเป็นเพลงจีนกวางตุ้งอมตะขึ้นหิ้ง วัง หมิงเฉฺวียน เกิดที่เซี่ยงไฮ้ ต่อมาครอบครัวของเธอได้ย้ายมาอยู่ที่ฮ่องกง หลังจากเรียนจบในชั้นมัธยมปลายแล้ว เธอได้เริ่มเข้าสู่วงการแสดงจากการเข้าเป็นนักเรียนการแสดงรุ่นแรกของสถานีโทรทัศน์อาร์ทีวี โดยเป็นคนแรกที่จบการศึกษาในรุ่นที่ 1 หมายเลขประกาศนียบัตรหมายเลข 001 จากนั้นจึงเริ่มแสดงละครโทรทัศน์ให้กับสถานีอาร์ทีวี เป็นเวลา 3 ปี โดยมีผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในเฉพาะฮ่องกง อย่างเช่นละครเรื่อง 4ใบเถา (四千金 1968), ภาพยนตร์เรื่อง เพลงรัก...ดอกโบตั๋น (Singing Darlings 1969) และผลงานภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง บ้านสาวโสด (小姐不在家 1970)หลังจากหมดสัญญากับทางค่ายอาร์ทีวีในปีพ.ศ. 2513 เธอได้เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อเรียนการร้องเพลงและการเต้นประมาณกว่าปี หลังจากเรียนจบครอส์ที่นั้นแล้วเธอก็ได้บินกลับมายังฮ่องกงและได้เข้าร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) เนื่องจากพรสวรรค์ที่มีพร้อมทางด้านต่าง ๆ ของเธอทั้งการแสดง-ร้องเพลง และเต้น จึงทำให้เธอมักจะได้รับมอบหมายงานแสดงโชว์รวมถึงเป็นพิธีกรในงานสำคัญ ๆ ของทางช่องอยู่บ่อย ๆ เช่น งานครบรอบวันเกิดของทางช่องและงานแสดงโชว์ตามงานการกุศลต่าง ๆ รวมไปถึงกิจกรรมงานสำคัญ ๆ ของทางช่อง ซึ่งในช่วงแรก ๆ ที่ร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเธอได้ทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังการผลิตรายการโทรทัศน์ ต่อมาก็ได้มีผลงานละครตามมาและได้เป็นสมาชิกในกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปภายใต้ชื่อ กลุ่ม 4 ดอกไม้สีทอง (Four Golden Flowers) และมีอัลบั้มที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อกลุ่มออกมา ซึ่งก็ได้รับความนิยมในฮ่องกงช่วงนั้นเป็นอย่างมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ต้องแยกวงกันไปตามทางที่ตัวเองถนัด จนกระทั่งผลงานละครที่ทำให้เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในระดับเอเชียคือเรื่อง จอมใจจอมยุทธ (The Legend Of The Book and the Sword 1976) ซึ่งเป็นละครที่สร้างมาจากนวนิยายเรื่อง ตำนานอักษรกระบี่ ของกิมย้ง โดยในเรื่อง วังหมิงเฉวียน ได้รับบทเป็น ฮั่วชิงถง ตามด้วยผลงานละครแนวสากลเรื่อง บ้านแตก (Homoe is not Home 1977) ที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงในระดับเอเชียเพิ่มมากยิ่งขึ้นจากในเรื่องที่เธอได้สวมบทบาทเป็นหญิงสาวสมัยใหม่ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้และมีความมั่นใจในตัวเองสูงซึ่งกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ติดตัวของเธอนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และผลงานที่ทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกทั่วเอเชียกับบทบาท เตี๋ยเมี่ยง ในละครกำลังภายในจากบทประพันธ์ของกิมย้ง เรื่อง ดาบมังกรหยก (Heaven Sword and Dragon Saber 1978) ซึ่งความสำเร็จของละครเรื่องนี้ได้ทำให้เธอขึ้นมาเป็นนักแสดงหญิงเบอร์หนึ่งของทางช่องทีวีบี และดารายอดนิยมแถวหน้าของเอเชียโดยทันที ตามต่อด้วยผลงานที่ทำให้เธอยิ่งเพิ่มความดังขึ้นไปอีกกับผลงานสุดฮิต เรื่อง ชอลิ้วเฮียงจอมโจรจอมใจ (Chor Lau Heung 1979) ซึ่งเป็นละครที่สร้างมาจากบทประพันธ์ของโกวเล้ง โดยเธอรับบทเป็น ซิมฮุ่ยซัง ถึงแม้บทบาทของเธอในเรื่องนี้จะมีไม่มากนักก็ตามแต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัวออกมาก็จะโดดเด่นมาก และนับได้ว่าเป็นอีกผลงานอมตะที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเธออีกเรื่องหลังจากนั้นเธอก็มีละครยอดนิยมตามมาอีกจำนวนมากมาย เช่นเรื่อง เหนือลิขิต (Over the Rainbow 1979), คมเฉือนคม (The Shell Game 1980) , ฝันสลาย (Yesterday's Glitter 1980), 14 นางสิงห์เจ้ายุทธจักร (Young's Female Warrior 1981), ความรักสี่ฤดู (Love Forever 1981), ฟ้ามิอาจกั้น (Love and Passion 1982) และ โคมวิเศษเจ้าแม่หัวซาน (The Lamp Lorc 1986)ทุกเรื่องทุกบทบาทที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่ทำให้เธอได้รับความนิยมถึงจุดสูงสุดจนกลายเป็นนักแสดงหญิงจอแก้วอันดับหนึ่งของชาวฮ่องกง ด้วยความที่เธอประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพการแสดงในฮ่องกง ในปีพ.ศ. 2526 เธอได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่คนของคนในวงการบันเทิงที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีลงนามในงานแถลงการณ์เชื่อมความสัมพันธ์กระชับมิตรระหว่างจีน กับ สหราชอาณาจักร ซึ่งนำพาความภาคภูมิใจให้แก่ตัวเธอเป็นอย่างมากทำให้ต่อมาเธอได้ถูกเสนอชื่อให้เข้าเป็นสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติ (National People's Congress - NPC) ระหว่างปีพ.ศ. 2531-2540 (1988-1997) และทำให้เธอได้มีบทบาททางการเมืองมาตั้งแต่นั้นถือได้ว่าเธอเป็นศิลปินไม่กี่คนในวงการบันเทิงที่ได้ทำงานทั้งในวงการบันเทิงควบคู่กับการทำงานด้านการเมืองไปด้วย อีกทั้งในอดีตเธอยังเคยเป็นนักแสดงอุปรากรจีน จนต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมาพันธ์อุปรากร จีน–ฮ่องกง นอกจากบทบาทดังกล่าว เธอยังเคยทำงานด้านช่วยเหลือสังคม เช่น เป็นทูตของอ๊อกแฟม (Oxfam) สาขาฮ่องกง ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือเด็กยากจนทั่วโลก และ เธอยังเคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการต่อต้านโรคมะเร็งแห่งฮ่องกง ของสภาสมาคมโรคมะเร็งฮ่องกงรวมถึงเคยเป็นประธานสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพด้านสื่อโทรทัศน์แห่งฮ่องกง ซึ่งในปีพ.ศ. 2545 เธอได้รับ เครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ ขั้น Golden Bauhinia Star อันทรงเกียรติในฐานะที่เธอเป็นบุคคลผู้มุ่งมั่นในการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรมของฮ่องกงอย่างจริงจัง และในปีพ.ศ. 2547 รัฐบาลฮ่องกงก็ได้มอบเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ขั้น Silver Bauhinia Star (銀紫荊星章) อันทรงเกียรติให้กับเธอในฐานะบุคคลผู้อุทิศตนในการช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้ทั่วโลก อีกทั้งเธอยังเคยได้รับ "ปริญญากิตติมศักดิ์ด้านวรรณกรรม" จาก มหาวิทยาลัยเมืองฮ่องกง (City University of Hong Kong), ได้รับ "ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางด้านมนุษยศาสตร์" จาก มหาวิทยาลัยการศึกษาฮ่องกง (The Education University of Hong Kong)และเข้ารับ "ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์" จาก สถาบันการแสดงศิลปะ ฮ่องกง (The Hong Kong Academy for Performing Arts)ส่วนบทบาททางการเมืองล่าสุดของเธอ คือ เป็นสมาชิกสภาที่ประชุมปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (Chinese People's Political Consultative Conference - CPPCC)ปัจจุบันเธออยู่กินฉันสามีภรรยากับนาย หลอเจียอิง ผู้ทำงานในแวดวงบันเทิงเดียวกันกับเธอ และเธอก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงฮ่องกง และยังคงมีผลงานละครที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวฮ่องกงมาจนถึงทุกวันนี้เกินกว่า 5 ทศวรรษแล้ว[2][3][4]

วัง หมิงเฉฺวียน

เกิด 28 สิงหาคม พ.ศ. 2490 (75 ปี)
วัง หมิงเฉฺวียน
เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
สังกัด -สถานีโทรทัศน์อาร์ทีวี (พ.ศ. 2510-2513)
-สถานีโทรทัศน์ทีวีบี (พ.ศ. 2514-ปัจจุบัน)
อาชีพ -นักแสดง
-นักร้อง
-พิธีกร
-นักการเมือง
คู่ครอง เหอโส่วซิ่น (何守信) (พ.ศ. 2523-2533)
ผลงานเด่น -บท เตี่ยเมี่ยง เรื่อง ดาบมังกรหยก (พ.ศ. 2521)
-บท ซิมฮุ่ยซัง เรื่อง ชอลิ่วเฮียง ตอน สยบบ้อฮวย (พ.ศ. 2522)
-บท ถานเสี่ยวถัง เรื่อง คมเฉือนคม ภาค 1 (พ.ศ. 2523)
-บท เหอเยี่ยนชิว เรื่อง ฝันสลาย (พ.ศ. 2523)
-ฮั่วซือหลิง ใน คมเฉือนคม ภาค 2 (พ.ศ. 2524)
-บท มู่กุ้ยอิง เรื่อง 14 นางสิงห์เจ้ายุทธจักร (พ.ศ. 2524)
-บท เจ้าแม่หัวซาน เรื่อง โคมวิเศษเจ้าแม่หัวซาน (พ.ศ. 2529)
-บท ฟางเจี้ยนผิง เรื่อง เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ภาค1-2 (พ.ศ. 2542-2543)
ปีที่แสดง พ.ศ. 2511-ปัจจุบัน
คู่สมรส "หลิวชังหวา" (劉昌華) (พ.ศ. 2514-2526)"หลอเจียอิง" (羅家英) (พ.ศ. 2552-ปัจจุบัน)

แหล่งที่มา

WikiPedia: วัง หมิงเฉฺวียน http://hkmdb.com/db/people/view.mhtml?id=3636&disp... http://www.imdb.com/name/nm2047990/ http://www.lizawang.com http://news.stheadline.com/figure/?id=186 http://m.tianya999.com/yule/2017/1024/12796139.htm... http://www.tvb888.com/TvNews/Star/19776/ http://news.xinhuanet.com/english/2007-12/31/conte... http://www.thestandard.com.hk/news_detail.asp?pp_c... http://www6.cityu.edu.hk/puo/CityUMember/Story/Sto... http://buzzlife.com.tw/article/1460104919/